1.กวาวเครือขาว ซึ่งเป็นไม้เถาตระกูลถัวจะขึ้นไปกับต้นไม้หรือเลื้อยไปบนดิน1ก้านจะมี 3 ใบ ใบจะเล็กกว่ากวาวเครือแดง หัวจะมีลักษณะคล้ายกับผลมันแกวและขนาดหัวมีทั้งใหญ่และเล็กจะขึ้นอยู่กับลักษณะดิน หากจะใช้มาทำเป็นยาต้องใช้หัวที่แก่แล้ว ถ้าเอามีดปาดจะมียางสีขาวๆคล้ายๆนมไหลออกมา เนื้อจะเปราะๆและมีเส้นมาก
2.กวาวเครือแดง ถ้าหากเราสะหิกที่หัวของกวาวเครืองแดงจะมียางสีแดงคล้ายๆเลือดไหลออกมาสามารถใช้ทำเป็นยาได้ ซึ่งกวาวเครือแกงจะมีความแรงกว่ากวาวเครือขาว
3.กวาวเครือดำ ลำต้นและเถาจะเหมือนกับกวาวเครือแดง แต่ใบและหัวกวาวเครือดำจะมีขนาดเล็กกว่ากวาวเครือแดง และมียางสีดำที่สามารถใช้ทำเป็นยาได้ ควรใช้ในขนาดที่พอเหมาะ เพราะมีฤทธิ์แรงมาก
4.กวาวเครือมอ ทุกส่วนของต้น ทั้งใบ เถา หัว ลำต้น จะเหมือนกับกวาวเครือดำ แต่เนื้อข้างในหัวและยางจะมีสีมอๆค่อนข้างที่จะหายากพอสมควรเช่นเดียวกับชนิดดำ มีหัวเล็กๆเท่ามันเทศ
ซึ่งแพทย์แผนโบราณได้แนะนำเอาไว้ว่าไม่ควรรับประทานกวาวเครือติดต่อกันนานหรือทานมากเกินไป อาการข้างเคียงเมื่อทานกวาวเครือ ทาน 3- 4 วันแรกจะครั่นเนื้อครั่นตัวและจะปวดที่เอวและข้อต่อต่างๆตามร่างกาย เมื่อมีอาการดังกล่าวให้อาบน้ำเย็นก็จะมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ แต่สามารถทานต่ไปได้ค่ะ ซึ่งปัจจุบันก็มีขายทั้งในรูปแบบเม็ดยาและแบบแคปซูลที่เป็นยานมโตคลีนิค เพื่อที่ตอบสนองความต้องการของเหล่าบรรดาหญิงสาวที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น